มนตร์หมอผีตีเจ๊าเซิร์บ 3-3 โสมร่อแร่ แพ้ "กานา" 2-3 วันนี้เดือดส่งท้าย 2 กลุ่ม
“หมอผี แคเมอรูน” เจ๊าสุดมัน “แข้งเซิร์บ” 3-3 แบ่งกันไปทีมละแต้มต้องไปลุ้นเข้ารอบกันในเกม สุดท้าย 2 ธ.ค. อีกคู่
เกาหลีใต้โดนกานานำ 2 ลูก แต่ไล่บดจนตีเสมอก่อนถูกยิงลูก 3 พ่ายไปอย่างสนุก 2-3 ส่วนศึกฟาดแข้งโลก 2022 คืนนี้ (29 พ.ย.) เป็นเกมรอบแรกนัดสุดท้าย คู่เอก อยู่ที่กลุ่มบี เตะพร้อมกัน 02.00 น. “สิงโตคำราม” อังกฤษ ไล่ฟัด “มังกรแดง” เวลส์ แทงบอลโลกคู่ไหนเด็ด หวังชัยชนะเพื่อการันตีตำแหน่งจ่าฝูงของกลุ่ม ส่วนอีกคู่กลุ่มเดียวกัน “นักรบแห่งเปอร์เซีย” อิหร่าน ดวลเพลงเตะ “พญาอินทรี” สหรัฐอเมริกา เว็บแทงบอลโลกให้ราคาดี คู่นี้ใครชนะผ่านเข้ารอบทันที ส่วนกลุ่มเอ ลงเตะพร้อมกันเวลา 22.00 น. “กังหันลม สีส้ม” ฮอลแลนด์ จะอาศัยจังหวะจบสกอร์ที่แกร่งกว่า ไล่ต้อน “เจ้าภาพ” กาตาร์ คว้าจ่าฝูงของกลุ่มได้ตามเป้า ส่วนอีกคู่ เอกวาดอร์ รองจ่าฝูง พบ “สิงโตเตรังกา” เซเนกัล ทีมอันดับ 3 ของตาราง เกมนี้ เอกวาดอร์ ต้องมีแต้มติดมือหากจะลุ้นเข้าสู่รอบน็อกเอาต์
ศึกแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย เมื่อวันจันทร์ที่ 28 พ.ย. คู่แรกเวลา 17.00 น. แคเมอรูน พบกับเซอร์เบีย ทั้งคู่ฟาดแข้งกันที่อัล ยานูบ สเตเดียม นัดแรกทั้งสองทีมแพ้ด้วยกันมาทั้งคู่ หากใครพลาดท่าอีกครั้ง มีโอกาสสูงที่จะตกรอบ เปิดฉากมาเป็น เซอร์เบีย ที่เปิดเกมรุกใส่ได้โอกาสหลายครั้งจากอเล็กซานดาร์ มิโตรวิช กองหน้าตัวเก่ง แต่ก็แค่หวาดเสียว นาทีที่ 19 ปิแอร์ คุนเด สับไกยิงเต็มแรงแต่ยังไม่ผ่าน วานยา มิลินโควิช-ซาวิช นายด่านของเซอร์เบีย
กระทั่งนาทีที่ 29 จากลูกเตะมุมนิโคลัส เอ็นคูลู โหม่งเช็ดมาทางเสาไกลก่อนฌอง-ชาร์เลส คาสเตลเลตโต จะพุ่งชาร์จเข้าไปให้แคเมอรูนขึ้นนำ 1-0 นาทีที่ 42 กุนเดได้โอกาสยิงอีกครั้งติดเซฟของ วานยา มิลินโควิช-ซาวิช ก่อนได้ซ้ำอีกทีก็ออกข้างไป นาทีที่ 45 (+1) สตราฮินยา พาฟโลวิช ได้ขึ้นโหม่งเหน่งๆเข้าไปตุงตาข่ายให้เซอร์เบียตีเสมอเป็น 1-1 ถัดมาอีก 2 นาที แนวรับแคเมอรูนทำพลาดเอง หน้ากรอบเขตโทษก่อนอันดริยา ซิฟโควิช จะเปิดบอลมาให้เซอร์เกจ์ มิลินโควิช-ซาวิช ซัดไปเต็มข้อ เข้าไปตุงตาข่าย จบครึ่งแรก เซอร์เบียขึ้นนำ 2-1
เปิดฉากครึ่งหลังนาทีที่ 53 อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ได้โอกาสซัดเหน่งๆเข้าไปตุงตาข่ายให้เซอร์เบีย นำห่าง 3-1 แต่แคเมอรูนไม่ยอมแพ้ แวงซองต์ อาบูบาการ์ ชิงจังหวะชนะกับดักล้ำหน้าลากเข้าไปกระดกบอลเข้าไปตุงตาข่าย แต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้า แต่วีเออาร์เช็กแล้วไม่ออฟไซด์ทำให้ แคเมอรูนตีตื้นไล่มา 2-3 ถัดมา 2 นาทีแฟนบอลหมอผีในสนามก็ได้เฮกันสนั่นอีกครั้ง เมื่ออาบูบาร์กา คนเดิมหลุดกับดักล้ำหน้า ก่อนจะจ่ายให้เอริค มักซิม ชูโป-โมติง แปเหน่งๆ เข้าไปตุงตาข่าย ทำให้ แคเมอรูนตีเสมอ 3-3 จากนั้นทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันในช่วงเวลาที่เหลือแต่ก็ทำได้แค่หวาดเสียวจบเกมเสมอกันไป 3-3 แบ่งกันไปทีมละแต้ม เกม นัดสุดท้ายแคเมอรูน พบบราซิล ส่วนเซอร์เบีย พบสวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 2 ธ.ค.นี้
อีกคู่ในกลุ่มเอช “โสมขาว” เกาหลีใต้ ที่เสมอ อุรุกวัย 0-0 พบกับ “ดาวดำ” กานา ที่แพ้โปรตุเกส มา 2-3 เกมนี้ฟาดแข้งที่เอดูเคชัน สเตเดียม สถานการณ์ในเกมนี้กานาจะพ่ายแพ้อีกไม่ได้มีโอกาสตกรอบทันที ส่วนเกาหลีใต้ต้องการชัยชนะเพื่อที่จะเพิ่มโอกาสเข้าสู่รอบต่อไป ครึ่งแรก เกาหลีใต้เป็นฝ่ายเดินเกมรุกกดดันเข้าใส่อยู่ฝ่ายเดียว แต่ยิงเฉียดไปเฉียดมา จนนาทีที่ 24 จังหวะชุลมุนหน้าประตู บอลโดนอังเดร อายิว ตกหน้าปากประตูก่อนเป็นโมฮัมเหม็ด ซาลิซู ซัดเข้าไปเต็มแรงบอลตุงตาข่ายให้กานาขึ้นนำ 1-0 จากนั้นนาทีที่ 34 จอร์แดน อายิว เปิดบอลให้โมฮัมเหม็ด คาดุส โหม่งเข้าไปให้กานาออกนำ 2-0 ก่อนจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ดังกล่าว
เริ่มครึ่งหลัง เกาหลีใต้แก้เกมมาได้ดีเดินหน้าเปิดเกมรุกเข้าใส่ นาทีที่ 52 โช กู-ชอง ได้โหม่งเหน่งๆ แต่ไม่ผ่านมือผู้รักษาประตูกานา นาทีที่ 58 โช กู-ชอง ได้โหม่งเต็มหัว คราวนี้ไม่พลาดเข้าไปตุงตาข่ายให้เกาหลีใต้ตามมาเป็น 1-2 ถัดมาอีก 3 นาที แฟนบอลโสมขาวก็ได้เฮกันสนั่น เมื่อคิม จิน-ซู เปิดบอลทางฝั่งซ้ายให้โช กู-ชอง โถมโหม่งเต็มๆเข้าไปตีเสมอให้เกาหลีใต้ 2-2
แต่นาทีที่ 68 จากลูกเปิดด้านซ้าย อินากิ วิลเลียมส์ ยิงแป๊กหน้าปากประตู บอลไหลมาทาง โมฮัมเหม็ด คาดุส ซัดเข้าไปเป็นประตูที่สองของตัวเองให้กานาขึ้นนำอีกครั้ง 3-2 นาที 75 อี คัง-อิน ได้ยิงลูกยิงนอกกรอบแต่ยังติดมือ ลอว์เรนซ์ อาตี-ซิกี ผู้รักษาประตูกานาเซฟเอาไว้ได้ จากนั้นช่วงเวลาที่เหลือ เกาหลีใต้พยายามเปิดเกมรุกกดดันใส่ แต่ได้แค่หวาดเสียว ก่อนจบเกม กานาชนะเกาหลีใต้ไป 3-2 เก็บ 3 แต้มได้สำเร็จ ส่วนเกาหลีใต้ มี 1 คะแนนจาก 2 นัด ทั้งสองทีมยังมีลุ้นเข้ารอบในเกมนัดสุดท้าย กานา จะพบกับอุรุกวัย ขณะที่เกาหลีใต้จะพบกับโปรตุเกส
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายที่ประเทศกาตาร์ วันนี้ (29 พ.ย.) เป็นรอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย กลุ่มเอ ฟาดแข้งพร้อมกัน 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย คู่แรก เอกวาดอร์ รองจ่าฝูง พบกับ “สิงโตเตรังกา” เซเนกัล ทีมอันดับ 3 ของตาราง คู่นี้ฟาดแข้งกันที่คาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดียม เมืองอัล เรย์ยาน สถานการณ์คู่นี้ เอกวาดอร์แค่เสมอจะผ่านเข้ารอบ 2 ส่วนเซเนกัลต้องชนะสถานเดียว นัดนี้ถ่ายทอดสด ช่อง GMM25 (ช่อง 25)
กุสตาโว อัลฟาโร เทรนเนอร์ทีมชาติเอกวาดอร์ จะไม่ปรับทัพจากเกมเสมอเนเธอร์แลนด์ 1-1 แนวรับมีเฟลิกซ์ ตอร์เรส, ปิเอโร อินกาปี ยืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ มอยเชซ ไคเซโด บัญชาเกม กลางสนาม แดนหน้าวางเอ็นเนอร์ วาเลนเซีย กองหน้ากัปตันทีมที่ซัดไปแล้ว 3 ลูก ผนึกกำลังกอนซาโล ปลาตา, ไมเคิล เอสตราดาลงล่าตาข่าย
อาลิซู ซิสเซ กุนซือทีมชาติเซเนกัล จะยึดผู้เล่นหน้าเดิมๆจากทุบกาตาร์ 2-0 เกมนี้จะยึดผู้เล่นหน้าเดิม ลงสนาม แนวรับวางคาลิดู กูลิบาลี, ปาเป อาบู ซิสเซ ยืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ น็อมปาลิส เมนดี คุมจังหวะเกมร่วมกับปาปา เกย์, อิดริสซา เกย์ แดนหน้าวางเกรแป็ง ดิยัตตา, อิสไมลา ซาร์, บับบา เดียง เป็น 3 ประสานทำสกอร์
เอกวาดอร์ถือว่าฟอร์มดีตลอด 2 นัดที่ผ่านมา มาเจอกับ เซเนกัลที่กำลังคึกหลังกลับมามีลุ้นเข้ารอบอีกครั้ง เกมนี้สนุกแน่ ขุมกำลังโดยรวมทัพ “สิงโตเตรังกา” จะเหนือกว่าเล็กน้อย แต่จังหวะจบสกอร์ชั่วโมงนี้ต้องยกให้ทีมดังจากละตินอเมริกาจริงๆ โดยเฉพาะเอ็นเนอร์ วาเลนเซีย ยังไงก็หาทางยิง ให้เอกวาดอร์ ไม่น่าแพ้ตีตั๋วเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ในที่สุด
อีกคู่เตะพร้อมกันในกลุ่มเอ “กังหันลมสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ จ่าฝูงของกลุ่มมี 4 คะแนนจะพบกับกาตาร์ เจ้าภาพที่ร่วงตกรอบไปแล้ว เกมนี้ฟาดแข้งกันที่อัล เบย์ต สเตเดียม, เมืองอัลคลอร์ เกมนี้ เนเธอร์แลนด์ ต้องเก็บชัยชนะให้ได้เพื่อคว้าแชมป์กลุ่ม ส่วนกาตาร์ หมดลุ้นแล้ว คู่นี้ช่องทรูโฟร์ยู (ช่อง 24) และ อมรินทร์ ทีวี (ช่อง 34) ถ่ายทอดสด
หลุยส์ ฟาน กัล เทรเนอร์ชาวดัตช์ของเนเธอร์ แลนด์ ฟอร์มฝืดนัดเสมอ เอกวาดอร์ 1-1 เกมนี้จะปรับเปลี่ยนทีมเล็กน้อย แนวรับวาง มาไธส์ เดอ ลิกท์, เวอร์จิล ฟาน ไดก์, เนธาน อาเก ยืนเป็น 3 เซ็นเตอร์ ฮาล์ฟ เฟรงกี เดอ ยอง, สตีเฟน เบิร์กฮุยส์ คุมจังหวะเกม ดาวี คลาสเซน รับบทหน้าต่ำปั้นเกมรุก แดนหน้าส่ง เมมฟิส เดปาย กองหน้าตัวเก่งออกสตาร์ตตัวจริงล่าตาข่ายเคียงข้าง โคดี กักโป ที่กดไปแล้ว 2 ตุง
ส่วน เฟลิกซ์ ซานเชซ กุนซือทีมชาติกาตาร์ ไม่มีปัญหาในการจัดทัพเกมนี้จะยึดผู้เล่นหน้าเดิมๆ ลงสนามเพื่อหวังจะเก็บแต้มแรกให้ได้ แนวรับวาง อับเดลคาริม ฮัสซัน, บาสซาม อัล-ราวี และ บูอาเลม คูคี ยืนเป็น 3 เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ อับดุลลาซิซ ฮาเตม กองกลางตัวเก๋ายังรับหน้าที่ขับเคลื่อนเกมเช่นเดิม แดนหน้าวาง อัลโมเอซ อาลี, อัคราม อาฟิฟ เป็นคู่หัวหอกเหมือนเดิม
เนเธอร์แลนด์ สะดุดได้แค่เสมอ เอกวาดอร์ มา 1-1 ทำให้ต้องมาลุ้นเข้ารอบในเกมสุดท้าย แต่การเจอกับ กาตาร์ ถือว่างานไม่หนักเท่าไรเจ้าภาพมีเสียงเชียร์หนุนหลังก็จริง แต่รูปเกมและศักยภาพยังห่างชั้นทัพ “กังหันลมสีส้ม” อยู่หลายช่วงตัวรูปเกมนี้จะเป็นทางลูกทีม หลุยส์ ฟาน กัล ที่เดินหน้าปูพรมเปิดเกมรุกกดดันเข้าใส่ตั้งแต่ต้นเกมก่อนจะอาศัยจังหวะเข้าทำที่เด็ดขาดกว่าของเมมฟิส เดปาย, โคดี กักโป, ดาวี คลาสเซน ช่วยกันถลุงพาทีมเก็บ 3 แต้มไปแบบสบายๆ
ขณะที่กลุ่มบี มีลงสนามฟาดแข้งพร้อมกัน 2 คู่ คิกออฟ 02.00 น. “นักรบแห่งเปอร์เซีย” อิหร่าน รองจ่าฝูงจะพบกับ “พญาอินทรี” สหรัฐอเมริกา ทีมอันดับ 3 ของตาราง คู่นี้ฟาดแข้งกันที่ อัล ธูมามา สเตเดียม, กรุงโดฮา ช่อง GMM25 (ช่อง 25) สถานการณ์ของคู่นี้อิหร่าน หากเอาชนะได้จะเข้ารอบสองทันที ส่วนสหรัฐอเมริกา ต้องการ 3 แต้มเพื่อตีตั๋วเข้าสู่รอบสุดท้ายเช่นกัน
คาร์ลอส เคยรอช เทรนเนอร์ชาวโปรตุเกสของอิหร่าน เกมนี้จะได้ ซาดาร์ อัซมูน กองหน้าตัวเก่งฟิตกลับมาพร้อมลงสนามอีกครั้งหลังจากป่วนแนวรับเวลส์ ได้ในนัดที่แล้ว โดยมี เมห์ดี ทาเรมี ถอยมารับบทหน้าต่ำคอยปั้นเกมรุก อาห์หมัด นูรอล ลาฮี, อลิเรซา จาฮานบัคห์ช คุมเกมกลางสนาม แนวรับวาง มอร์เตซา ปูราลิกานจี, มายิด ฮอสเซนี ยืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ
เกรกก์ เบอร์ฮัลเตอร์ เฮดโค้ชของทีมชาติสหรัฐอเมริกา เกมนี้จะปรับทัพมาเล่นในระบบ 4-3-3 อีกครั้งเพื่อเดินเกมรุกเต็มพิกัด แนวรับมี ทิม รีม, วอล์คเกอร์ ซิมเมอร์แมน ปักหลักเป็นปราการหลังคู่กลาง เวสต์ตัน แมคเคนนี คุมเกมร่วมกับ ไทเลอร์ อดัมส์ และยูนุส มูซาห์ แดนหน้าวาง จอช ซาร์เจนท์, คริสเตียน พูลิซิช, ธิโมธี เวอาห์ ยืนเป็น 3 ประสานคอยล่าตาข่าย
อิหร่าน กำลังคึกและมั่นใจหลังจากโชว์ฟอร์มทุบ เวลส์ มาได้ แต่ก็ไม่ง่ายเมื่อแข้ง สหรัฐอเมริกา ก็เล่นได้อย่างแข็งแกร่งแม้ว่าจะเพิ่งมีแค่ 2 แต้มแต่ฟอร์มการเล่นโดยรวมค่อนข้างดีเลยทีเดียว รูปเกมทั้งสองทีมที่ต้องการชัยชนะเพื่อที่จะเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายจะเปิดเกมรุกแลกกันตลอดทั้ง 90 นาที แต่ทีเด็ดทีขาดยังคงวางใจแข้งมะกัน แค่ปรับจังหวะให้คมกว่าเกมอังกฤษอีกนิดน่าเอาชนะ อิหร่าน ได้ไม่ยาก
อีกคู่ของกลุ่มบี เตะ 02.00 น. พร้อมกัน “มังกรแดง” เวลส์ ทีมบ๊วยของตารางจะพบกับ “สิงโตคำราม” อังกฤษ จ่าฝูง คู่นี้ฟาดแข้งกันที่ อาห์มัก บิน อาลี สเตเดียม, อัล เรย์ยาน ช่องทรูโฟร์ยู (ช่อง 24) สถานการณ์คู่นี้ อังกฤษ ต้องมี 1 แต้มเป็นอย่างน้อย จะผ่านเข้ารอบ แต่ถ้าชนะจะการันตีจ่าฝูงของกลุ่มทันที ส่วน เวลส์ ยังมีลุ้นเข้ารอบต้องเอาชนะในเกมนี้ต้องยิงเยอะๆ และก็ลุ้นให้ผลอีกคู่เสมอ
โรเบิร์ต เพจ เทรนเนอร์ทีมชาติเวลส์จะไม่มี เวย์น เฮนเนสซีย์ ผู้รักษาประตูมือ 1 ที่ติดโทษแบนหลังจากโดนไล่ออกในเกมล่าสุด ทำให้ แดนนี วอร์ด จะลงทำหน้าที่แทน ส่วนตำแหน่งอื่นๆไม่เปลี่ยนแปลง แนวรับวาง คริส เมแฟม, โจ โรดอน, เบน เดวิส ยืนเป็น 3 เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ อารอน แรมซีย์ กองกลางตัวเก่งคุมเกมกลางสนามร่วมกับ แฮร์รี วิลสัน, อีธาน อัมปาดู แดนหน้าวาง แกเร็ธ เบล กองหน้ากัปตันทีม ผนึกกำลัง แดเนียล เจมส์ ลงล่าตาข่าย
แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือทีมชาติอังกฤษ ไม่มี ปัญหาจัดทัพ ยังวางใจผู้เล่นหน้าเดิมๆลงวาดลวดลาย แนวรับวางคีแรน ทริปเปียร์, แฮร์รี แมคไกวร์, จอห์น สโตนส์ และลุค ชอว์ ยืนเป็นแผงแบ็กโฟร์ จู๊ด เบลลิงแฮม, เดแคลน ไรซ์ คุมเกมกลางสนาม ราฮีม สเตอร์ลิง ผนึก กำลังเมสัน เมาท์, บูกาโย ซากา ปั้นเกมรุก แดนหน้า วางแฮร์รี เคน กองหน้ากัปตันทีม ที่ยังคลำเป้าไม่เจอลงล่าตาข่าย
สิงโตคำราม อังกฤษ ทำตัวเองให้มีปัญหาจาก การทำได้แค่เสมอสหรัฐอเมริกา 0-0 มาในเกมนี้ จะต้องเน้นเป็นพิเศษ แม้ว่าแค่ผลเสมอก็เพียงพอต่อ การเข้ารอบ แต่ต้องการ 3 แต้ม เพื่อเรียกความมั่นใจ ขุมกำลังโดยรวมก็เหนือกว่าเวลส์หลายช่วงตัว แม้ว่า ทั้งสองทีมจะรู้ทางกันดี แต่สุดท้ายจังหวะจบสกอร์ของ “สิงโตคำราม” ยังดูเฉียบคมและเด็ดกว่าน่าจะ บดเอาชนะไปได้ในที่สุด
- Art
- Causes
- Crafts
- Dance
- Drinks
- Film
- Fitness
- Food
- Jeux
- Gardening
- Health
- Domicile
- Literature
- Music
- Networking
- Autre
- Party
- Religion
- Shopping
- Sports
- Theater
- Wellness