โยชิอากิ มารุยามา ผู้ดูแลเรื่องอคาเดมีของเซเรโซ โอซาก้า พูดถึงเป้าหมายของเขา และแนวทางการผลิตนักเตะของสโมสรแห่งนี้

บทบาทของคุณในฐานะผู้อำนวยการอคาเดมีในตอนนี้คืออะไร?

ในตอนแรกที่ผมได้รับมอบหมายงานนี้ ผมเริ่มจากการตั้งคำถามว่า ผมควรทำอะไร? แล้วจากนั้นท่านประธานโมริชิมาก็ขยายภาพให้เห็นเพิ่มเติมว่า เซเรโซ โอซาก้า ควรจะเป็นอย่างไร? แล้วผมก็ไปพูดคุยกับคาจิโนะ ผู้จัดการทั่วไปว่า ทิศทางของเซเรโซ โอซาก้า ควรจะเป็นเช่นไร แล้วผมก็ได้ยินมาว่าทางอคาเดมีจะไปเชิญคาซามา มาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค ผมสนใจในเรื่องนี้มากๆ ผมมีภาพของการเป็นผู้นำในวงการฟุตบอลมาตลอดชีวิตของผม ผมเลยกังวลว่างานมันคืออะไร ในตอนนั้น ผมคิดถึงอนาคตของเซเรโซ โอซาก้าในอีก 50 ปี หรือแม้กระทั่ง 100 ปี ข้างหน้า ผมตื่นเต้นมากว่ามันอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในอนาคตได้เลย

ผมมักบอกพวกนักเตะอยู่เสมอว่าให้กลายเป็นซูเปอร์ไซยา เว็บบอลออนไลน์ คุณไม่ควรจะเป็นนักเตะที่ซ่อนอยู่ในเงามืด แต่ควรจะกลายเป็นซูเปอร์ไซยา เรามีซูเปอร์ไซยา 11 คนในสนาม นั่นคือสิ่งที่เราควรตั้งเป้าเอาไว้ แน่นอน มันเป็นกีฬาที่เล่นเป็นทีม มันก็เลยจะมีบทบาทของแต่ละตำแหน่ง แต่ท้ายที่สุดแล้ว คุณต้องแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง และเป็นนักเตะที่เหนือว่าคนอื่นๆ ทุกอย่างที่ผมพูดคือผมอยากจะพัฒนานักเตะให้ได้ในระดับนั้น

ก่อนอื่นเลยจะเริ่มฝึกซ้อมนักเตะทุกคนไม่ได้ จนกว่ามุมมองและวิสัยทัศน์ของสต๊าฟฟ์จะเปลี่ยนไปเสียก่อน โดยสรุปแล้ว ผมไม่รู้ว่ามันเป็นวิธีที่ถูกรึเปล่าที่จะพูดแบบนี้ แต่ผมมีส่วนร่วมในทุกๆ ด้าน ทั้งในสนามและงานเอกสาร

%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%A1%E0%B8%B5-%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%82%E0%B8%8B.jpg

หลังจากทำงานผ่านมาแล้ว 1 ปี คุณได้เห็นทิศทางใหม่ของอคาเดมีแล้วหรือยัง?

ได้เห็นแล้วนะ มันมาถึงจุดที่ว่าผมควรสานต่อจากตรงไหนแล้ว ในด้านบุคคล ผมประหลาดใจมากที่ได้เห็นว่ามันจะเปลี่ยนไปแบบนี้ ตอนที่ผมดูเกมในระดับเยาวชน หรือเฝ้ามองการเติบโตของนักเตะ ผมดูพวกเขาอย่างใกล้ชิดและมาคิดว่าการใช้เทคโนโลยีทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้มากขนาดนั้น

แต่ในอีกทางหนึ่ง ในฐานะผู้อำนวยการ ผมก็ยังรู้สึกว่าผมขาดอะไรบางอย่าง เพราะหลายอย่างที่คุณอยากได้มันดูเหมือนจะอยู่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ เว็บพนันบอลค่าน้ำเยอะ เป้าหมายของเราคือการสร้างนักเตะแบบที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน มันก็เลยไม่มีอยู่ในหัวเราเช่นกัน เพราะเขาเป็นนักเตะแบบที่ผมเองก็ไม่เคยเห็น (หัวเราะ) ผมจะบอกว่าเราจะพัฒนานักเตะที่สุดแสนจะพิเศษที่ไม่เคยมีสโมสรไหนทำได้มาก่อน มันเลยขึ้นอยู่กับเราว่าเราจะไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร

อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเซเรโซ อคาเดมี?

สิ่งที่ผมกำลังทำอยู่คือความท้าทายครั้งใหญ่ ผมเป็นคนตั้งคำถามให้ทีม เรากำลังพยายามต่อสู้ด้วยสิ่งที่เราสร้างจากข้างใน ผมคิดว่าจนถึงทุกวันนี้ นับตั้งแต่วันที่เจลีกก่อตั้งขึ้นมา เราพยายามจะสร้างต้นแบบของเราเอง โดยการผสมผสานกับเทรนด์และวิธีต่างๆ จากทั่วโลก มันเป็นสิ่งที่เรากำหนดกันด้วยตัวเอง ไม่ใช่สิ่งที่ใครจะมากำหนดมันได้ มันทำให้เรารู้สึกว่าเราสร้างไม้บรรทัดของเราเองขึ้นมา ไม่ว่ามันจะสำเร็จหรือไม่ มันก็ต้องดูกันในอีก 10 หรือ 20 ปี นับจากนี้ เรากำลังพยายามจะทำแบบนั้นในฐานะสโมสร นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ผมรู้สึกว่าผมต้องประสบความสำเร็จ มันคือสิ่งสำคัญสำหรับวงการฟุตบอลญี่ปุ่น

ระหว่างร่วมงานกับเซเรโซ โอซาก้า ผมคิดว่าคนญี่ปุ่นมีศักยภาพที่จะเชี่ยวชาญในด้านเทคนิค ถึงแม้มันจะเป็นทักษะที่ยาก แต่ผมคิดว่าคนญี่ปุ่นทำได้ ผมคิดว่ามันมีโอกาสสูงมากๆ ที่จะมีนักเตะที่ยอดเยี่ยมเกิดขึ้นมา ยกตัวอย่างเช่นตอนนี้ก็มีนักเตะมากมายที่กำลังสู้ในวงการฟุตบอลยุโรปด้วยความเร็วและพละกำลัง ฟุตบอลญี่ปุ่นกำลังพัฒนา อย่างไรก็ดี พอพวกนักเตะไปอยู่ในพรีเมียร์ลีก หรือเล่นในแชมเปี้ยนส์ลีก คุณจะยังคิดว่าพวกเขาเร็วหรือแข็งแกร่งอยู่อีกไหม? อย่างไรก็ดี การพัฒนาทางด้านเทคนิคนั้นเป็นทิศทางที่แตกต่างออกไป ถ้าเราจะสร้างนักเตะที่เหนือกว่าที่จะไปสู้กับบรรดานักเตะจากชาติอื่นๆ พวกเขาจะสู้ด้วยความเร็วหรือพละกำลังได้อย่างไร? แต่ถ้าเชี่ยวชาญทางด้านเทคนิค คุณจะสู้พวกเขาได้

ในเกมฟุตบอล เพื่อที่จะชนะ เพื่อที่จะทำประตู คุณต้องจัดการความคิดของตัวเอง ว่าคุณจะใช้ทักษะและอาวุธต่างๆ เพื่อไปให้ถึงจุดหมายนั้นให้เร็วที่สุดและสั้นที่สุดได้อย่างไร? ผมคิดว่ามันมีหลายวิธีที่จะทำให้เราใช้สนามได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างพื้นที่ขึ้นมาในขณะที่คู่แข่งกำลังวิ่ง แต่เราตั้งเป้าที่จะบรรลุเป้าหมายให้เร็วที่สุด

เปลี่ยนมาพูดหัวข้ออื่นบ้าง ผมอยากจะถามเกี่ยวกับกิจกรรมอคาเดมีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เซเรโซ โอซาก้า เป็นพันธมิตรกับบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ผมเชื่อพวกเขาก็ได้มีส่วนร่วมกับกิจกรรมในยามาโอกะ ฮานาซากะ อคาเดมีด้วย?

ผมคิดว่าน่าจะเป็นช่วงปี 2012 ที่ผมอยู่ในประเทศไทย และไทยลีกกับเจลีกมีการเซ็นสัญญาพันธมิตรกัน ในตอนนั้นผมเป็นทูตเอเชียของเจลีก แล้วมีโอกาสได้เห็นบีจีกับทางเซเรโซเป็นพันธมิตรกัน ในปีแรกนั้นเลย ผมก็ได้มาเป็นโค้ชอยู่กับทางบีจี

ส่วนยามาโอกะ ฮานาซากะ อคาเดมี ก็ถูกก่อตั้งขึ้นมาในปี 2016 โดยสโมสรที่เป็นพันธมิตรกับทางยันมาร์อย่างบีจี ปทุม ยูไนเต็ด และเซเรโซ โอซาก้า เรามีการพัฒนานักเตะเยาวชนให้วงการฟุตบอลไทย ในตอนแรกๆ เซเรโซมีการส่งสต๊าฟฟ์มาช่วยและมาพัฒนาโค้ชด้วย แต่โควิด-19 ก็ทำให้ทุกอย่างหยุดลง เราต้องดึงโค้ชกลับมา และกำลังพยายามหาทางจัดการกันด้วยระบบใหม่กันอยู่

นับตั้งแต่เซเรโซเป็นพันธมิตรกับบีจี เรามีการแลกเปลี่ยนกันอย่างสม่ำเสมอ ผมเคยไปเป็นผู้จัดการทีมให้ทีมชุด U-12 และ U-13 และพวกเขาก็เดินทางมาประเทศไทยอยู่บ่อยๆ ตอนที่เซเรโซมาไทย บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ก็จะคอยดูแลเป็นอย่างดี และพอบีจีไปญี่ปุ่น เซเรโซก็จะเป็นคนจัดการให้ทุกอย่าง

มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำแบบนั้น และถึงแม้จะยังไม่มีการคอนเฟิร์ม แต่ทีมชุดใหญ่ของทั้งสองสโมสรอาจจะมีการเข้าแคมป์กันในประเทศไทยปีหน้า มันเคยหยุดไปสักพักหนึ่งเพราะโควิด-19 แต่เราก็หวังว่ามันจะเริ่มกลับมาอีกครั้ง

สุดท้ายแล้ว ผมอยากจะถามอะไรเกี่ยวกับคุณหน่อย อะไรคือแรงจูงใจหรือแรงผลักดันของคุณในตำแหน่งนี้?

นั่นเป็นเพราะผมตื่นเต้นกับสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ เรากำลังพยายามท้าทายโลกด้วยวิธีของเราเอง ผมไม่คิดว่าเราจะทำได้หากไม่ได้อยู่ในทีมนี้ มันไม่ได้เกี่ยวกับว่าอะไรดีหรืออะไรแย่ แต่มันเป็นสิ่งที่มีแต่เซเรโซที่ทำได้ มันน่าตื่นเต้นที่ได้มีส่วนร่วมกับโปรเจคต์นี้ ได้ชี้ให้เห็นปัญหาของวงการฟุตบอลญี่ปุ่น ผมคิดว่าแรงผลักดันที่ดีที่สุดก็คือการได้พยายามทำในสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน

ผมตั้งตารอดูเลยว่าจะมีนักเตะแบบไหนถูกผลิตออกมา

เด็กๆ ที่มีศักยภาพจะแจ้งเกิดขึ้นมา ผมไม่คิดว่าโลกจะต้องรอนานขนาดนั้น ในฐานะผู้อำนวยการอคาเดมี ผมคิดว่าถ้าเราไม่มีผลงานออกมาให้คนทั้งในและนอกสโมสรเห็นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ คนก็คงไม่อยากติดตามเราอีกต่อไป